คุณโชคชัยผู้อ่านจากจังหวัดตรังถามมาด้วยรายละเอียดเพียงเล็กน้อยว่า...

“...ตรวจสุขภาพล่าสุด 7 ปีที่แล้ว พบว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ไม่เคยรักษา สุขภาพปกติ ช่วงนี้มีอาการตาเหลือง...จะดูแลสุขภาพอย่างไร จะมีปัญหาในการมีภรรยา มีลูกในอนาคตหรือไม่ ถ้าจะทำการรักษา จะหายขาดหรือไม่”

“...คนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีแล้ว ส่วนมากก็จะหายดี ไม่มีอะไร แต่ในส่วนน้อยนั้น ยังมีโอกาสที่จะกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรังหรือมะเร็งตับได้ การที่รู้ว่าเป็นแล้ว ไม่ยอมรักษาต่อ เหมือนการปิดหูปิดตาตัวเอง ขณะที่รถจะวิ่งมาชน การกระทำเช่นนี้ เป็นเพียงแค่ปิดการรับรู้เท่านั้น ไม่สามารถห้ามไม่ให้รถชนเราได้ ไม่สามารถ บรรเทาความเสียหายได้ จะทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวเราอย่างแสนสาหัส รวมทั้งเกิดความเศร้าเสียใจต่อครอบครัวของเราด้วย...

...ดังนั้น เมื่อรู้ว่า เป็นไวรัสตับอักเสบบีแล้ว จึงต้องขวนขวายหาทางรักษา หรือหาวิธีดูแลตัวเองที่ถูกต้อง ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อน หลังจากนั้นจึงมอบหมายให้อนาคตอยู่ในพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าแทน

อย่างแรกต้องรู้ว่า ไวรัสตับอักเสบบีนี้ เมื่อเป็นแล้ว มีอาการน้อยมาก หรือไม่มีอาการเลย แต่อาการเหล่านี้ ไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์กับการดำเนินไปของโรค แม้จะมีอาการน้อย โรคก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย  ถ้าหากไม่ไปพบแพทย์เพื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการ คือเจาะเลือดดูการทำงานของตับ หรือทำอัลตราซาวด์ดูตับว่ามีอาการของตับผิดปกติ มีตับแข็งหรือเปล่า?

การมีตัวเหลือง ตาเหลือง อาจเป็นอาการแสดงออกของการทำงานของตับที่ผิดปกติได้ ดังนั้น จึงควรไปพบแพทย์ เพื่อดูว่า เหลืองจริงหรือไม่? หรือคิดไปเอง ถ้าเหลืองจริง มีการทำงานของตับผิดปกติหรือไม่ ถ้ามี...มีมากน้อยเพียงใด มีก้อน หรือรูปร่างของตับเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่? เหล่านี้คือสิ่งที่จะต้องทำ เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องต่อไป

...วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง สำหรับคนที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ก็คือ งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และหลีกเลี่ยงยาที่ไม่จำเป็น เพราะยาเกือบทุกชนิดจะทำอันตรายต่อตับได้ แม้แต่ยาพาราเซตามอล แก้ปวดก็ตาม จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจมีเชื้อราปนเปื้อนซึ่งสร้างสาร Alpha toxin ที่เป็นพิษต่อตับได้ เช่นพวกถั่วต่างๆที่อาจจะเก่าและมีเชื้อรา รับประทานอาหารเพียงพอ สุก สะอาด และออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง

หมั่นไปพบแพทย์สม่ำเสมอเพื่อตรวจดูการทำหน้าที่ของตับและหาภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะเป็นผู้เลือกการตรวจรักษาที่เหมาะสมให้ครับ...”

สุขสาระ มกราคม 2554