สมุนไพรคลายเครียด
ความเครียดเป็นภาวะของอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ และทำให้รู้สึกถูกกดดัน ไม่สบายใจ วุ่นวายใจ กลัว วิตกกังวล ตลอดจนถูกบีบคั้น เมื่อบุคคลรับรู้หรือประเมินว่าปัญหาเหล่านั้นเป็นสิ่งที่คุกคามจิตใจ หรืออาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จะส่งผลให้สภาวะสมดุลของร่างกายและจิตใจเสียไป
ความเครียดเกิดขึ้นเองและสามารถหายเองได้เป็นปกติทุกวัน แต่ถ้าความเครียดส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน เช่น นอนไม่หลับ รับประทานอาหารไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ปวดศีรษะ ร่างกายอ่อนเพลียฯลฯ ควรมาพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำต่อไป
วิธีการขจัดความเครียดที่เหมาะสมให้ได้ผล 100% นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ในกรณีที่มาพบแพทย์ แพทย์จะแนะนำวิธีการผ่อนคลาย การหายใจเข้า-ออกลึก ๆ จะช่วยลดความเครียดลงได้
วิธีการขจัดความเครียดที่เกิดขึ้นพิจารณาจาก 3 สาเหตุ ได้แก่
- ทางด้านร่างกาย คือ การกำจัดสาเหตุที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหาสุขภาพร่างกาย
- ทางด้านจิตใจ คือ การปรับสภาพจิตใจของตัวเราเอง รู้จักปรับเข้ากับปัญหา ยอมรับในสิ่งที่ยังแก้ไขไม่ได้
- ทางด้านสิ่งแวดล้อม คือ ถ้ามีภาระงานมากจนรับไม่ไหว ควรทำงานให้น้อยลง รู้จักแบ่งเวลาในการทำงานและแบ่งเวลาให้กับตัวเอง
การใช้สมุนไพร เป็นทางเลือกหนึ่งที่นำเอาคุณสมบัติของสารพฤกษเคมีต่างๆ ที่พบในพืชสมุนไพร มาใช้บำบัดความเครียด
สมุนไพรที่มีสรรพคุณคลายเครียด
ข่า- มีรสเผ็ดร้อน ช่วยขับลมแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ นำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องแกงอาหารไทยชนิดต่างๆ และทำน้ำหรือชาสมุนไพรรับประทาน
ขิง - มีรสเผ็ดร้อน ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก ระบบย่อยอาหาร กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหาร และลำไส้ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม นำมาทำอาหารรับประทาน และทำน้ำหรือชาสมุนไพร ดื่มแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
ตะไคร้ - ลดการบีบตัวของลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้อง อาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นส่วนผสมของเครื่องแกงไทย และเป็นเครื่องประกอบของอาหารคาว หวาน นำมาทำน้ำหรือชาสมุนไพร แก้อาการปวดศีรษะ กลิ่นหอมของตะไคร้ ช่วยทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย สบายใจ
กระชาย -มีคุณสมบัติเป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ แก้อาการปวด มวนในท้อง นำมาเป็นเครื่องประกอบอาหารคาว หวานของไทยต่างๆ
ขี้เหล็ก -ดอก และใบ ของขี้เหล็ก มีสารช่วยระงับประสาท คลายเครียด ช่วยให้นอนหลับ เจริญอาหาร เป็นยาระบายอ่อนๆ บรรเทาอาการปวดประจำเดือนนำมาทำอาหารรับประทานเป็นแกงขี้เหล็ก
ใบชะพลู -มีแคลเซียม และวิตามินเอสูง นำมาทำเป็นอาหารว่างประเภทเมี่ยงต่างๆ หรือใส่แกงกะทิ ส่วนใบชะพลูหั่นตากแห้งนำมาทำเป็นชา มีรสเผ็ดร้อน ทำให้ตาสว่าง แก้อาการเครียดได้
ใบบัวบก -เป็นผักที่มีวิตามินเอ และวิตามินบีสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิตช่วยสร้างกล้ามเนื้อและผิวพรรณ แก้อาการช้ำใน นำมารับประทานสดเป็นเครื่องเคียง และน้ำสมุนไพรแก้กระหาย
สะระแหน่ -เป็นผักตระกูลมินต์ ช่วยให้สดชื่น ความคิดแจ่มใส แก้ปวดศีรษะ ผ่อนคลายความเครียด นำมารับประทานสดเป็นเครื่องเคียง และน้ำสมุนไพรแก้กระหาย
พริกไทย -มีรสเผ็ดร้อน ในพริกไทยอ่อนมีวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส น้ำมันหอมระเหยในพริกไทยช่วยให้หายปวดศีรษะ แก้ท้องเสีย ส่วนต้นพริกไทยที่หั่นตากแห้งมาคั่วทำเป็นชาช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และลดความเครียดได้ดีมาก
มะเขือเทศ -มีวิตามินเอ และวิตามินซีสูง มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านมะเร็ง ฟอกเลือด ช่วยเพิ่มการย่อยอาหาร นำมารับประทานสด ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารคาวหวาน นำมาทำเป็นน้ำมะเขือเทศดื่ม ทำให้เกิดความสดชื่น ผ่อนคลายความเครียด แก้กระหายน้ำ
มะนาว -รสเปรี้ยว มีวิตามินซีสูง คุณสมบัติช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ แก้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาการอ่อนเพลีย นำมาใช้ปรุงรสอาหาร และทำน้ำสมุนไพรขับลม คลายเครียด แต่ถ้ารับประทานมากอาจทำให้ท้องเสียได้
มะเฟือง -เป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามินสูง มีคุณสมบัติล้างพิษ ลดไข้ ช่วยระบายน้ำออกจากร่างกาย รับประทานแล้วรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย นิยมนำมาทำน้ำสมุนไพร
มะตูม - เป็นยาระบาย ขับลม แก้ท้องเฟ้อ ย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ขับถ่ายได้ดี เจริญอาหาร แก้ร้อนใน ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย
ฟ้าทะลายโจร -แก้ร้อนใน เจ็บคอ ตัวร้อน อาการปวดศีรษะ เจริญอาหาร นำมาเป็นส่วนผสมของยาลดอาการไข้ เจ็บคอ นำมาทำน้ำสมุนไพรต้มรับประทาน และเติมใบเตยลงไป เพื่อช่วยให้มีกลิ่นหอม ผ่อนคลายอารมณ์
ดอกบัวหลวง-เป็นดอกไม้ที่นำมาตากแห้งแล้วทำเป็นชา มีรสฝาดๆหอมๆช่วยให้สดชื่น หายอ่อนเพลีย และช่วยให้นอนหลับ
พวงชมพูดอกขาว -เถา หรือรากแห้ง นิยมนำมาทำเป็นชา มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยให้นอนหลับ
ดอกคาโมมายล์ - มีสรรพคุณมากมาย เพราะมีสารประกอบที่ใช้เป็นยาได้หลายชนิด อาทิ สารในกลุ่ม ฟลาโวนอยด์, กรดฟีโนลิก และน้ำมันหอมระเหย นอกจากนี้ยังช่วยดูแลระบบทางเดินอาหารให้ทำงานเป็นปกติ รักษาและป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร เพราะชาดอกคาโมมายล์นั้นจะช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยแก้อาการหวัด มีฤทธิ์ช่วยแก้สิว ฝ้า กระ และรอยจุดด่างดำต่างๆ บนใบหน้า และที่สำคัญ ยังมี “สารอะพิจีนีน” (Apigenin) ที่มีคุณสมบัติสำคัญคือการต้านการอักเสบและช่วยให้รู้สึกสงบ คลายความกังวล รวมถึงช่วยให้หลับสนิทอีกด้วยสำหรับการดื่มชาคาโมมายล์ก่อนนอน
การผ่อนคลายความเครียด ควรออกกำลังกายเป็นประจำและสม่ำเสมอ หางานอดิเรกทำ สำหรับผู้ที่มีภาระงานประจำมาก ควรให้เวลากับตัวเองบ้าง จัดเวลาให้เหมาะสม หาที่ปรึกษาหรือเพื่อนเพื่อรับฟังหรือช่วยตัดสินใจในบางเรื่อง รวมทั้งยอมรับในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เป็นต้น
สุขสาระ มกราคม 2520
แก้ไขล่าสุด : 2 ต.ค. 2567, เวลา 07:39