เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 มีกิจกรรม "บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยปัจจุบันและอนาคต" โดยสมาคมสื่อเพื่อสังคม มีพิธีเปิดโดย รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นผู้ให้ทุน กล่าวทักทายสั้นๆ ประมาณหนึ่งนาที ผ่าน Zoom (วิดีโอคอนเฟอร์เรน) 

จากนั้น ตัวแทนอาจารย์จาก มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตยะลา กล่าวพบปะกับนักศึกษาโดยเน้นย้ำว่า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย นักศึกษาควรห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้

ในกิจกรรมภาคปฏิบัติ (Work shop) ดำเนินการโดย นายลุกมาน กูนา จนท.โครงการชุมชนสดใสไร้ยาสูบ ร่วมกับ จนท.ของสมาคมสื่อเพื่อสังคม ได้แบ่งกิจกรรมออกเป็นสองช่วง ช่วงแรกเป็นการนำเสนอข้อมูลถึงอันตรายของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

ช่วงที่สองแบ่งกลุ่มเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งไม่เห็นด้วยที่จะให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฏหมายและเห็นด้วย ฝั่งเห็นด้วยมองถ้ายังไม่ถูกกฏหมายก็จะเป็นช่องทางทุจริตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (บางนาย) ที่จะเรียกส่วยจากผู้สูบหรือผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า แต่ต้องมีการควบคุมเหมือนบุหรี่มวน และเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่า

ฝ่ายที่ไม่อยากให้ถูกต้องตามกฏหมาย เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบ และผู้ใกล้ชิด และต้องการป้องกันเด็กๆ จากปัญหาเหล่านี้

น้องๆ ทุกคนรับทราบถึงผลเสียของทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า 

ช่วงท้ายกิจกรรม มีการเลือกสัมภาษณ์นักศึกษาที่เข้าร่วม (บางคน) ถึงความรู้สึกและทัศนคติต่อบุหรี่ไฟฟ้าโดยทีมงานของสมาคมสื่อเพื่อสังคม

กิจกรรมในวันนี้ทางสมาคมสื่อเพื่อสังคมซึ่งรับทุนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวบรวมความคิดเห็น รูปภาพ คลิปสัมภาษณ์ ส่งให้กระทรวงฯ ดำเนินการต่อทั้งหมด หลังจากนั้นทางกระทรวงฯ นำข้อมูลทั้งหมดไปประชาสัมพันธ์เอง

แต่เนื้อหาที่ทางกระทรวงสื่อสารออกมาไม่ตรงตามข้อเท็จจริง เพราะพยายามทำให้เห็นว่า น้องๆ เห็นด้วยกับบุหรี่ไฟฟ้า

จริงๆ เราต้องยืนหยัด มาตราการห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าดึงดูดให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ (Power of addiction and attraction) สูงกว่า บุหรี่มวน จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการที่คุมเข้มมากกว่า ซึ่งทางฝั่งที่ส่งเสริมบุหรี่ไฟฟ้าพยายามให้เรามองบุหรี่ไฟฟ้า เทียบเท่าบุหรี่มวน