ชาวซาอุดีอาระเบียเสียชีวิตปีละ 23,000 คนต่อปี เนื่องจากการสูบบุหรี่

ผลการวิจัยของซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่าการสูบบุหรี่ทำให้คนในราชอาณาจักรซาอุเสียชีวิตมากกว่า 23,000 คนต่อปี ในขณะที่สมาคมต่อต้านการสูบบุหรี่ในซาอุดีอาระเบียเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการที่เพียงพอเพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพของการสูบบุหรี่

ผลการวิจัยของซาอุดีอาระเบียแสดงให้เห็นว่านักเรียนที่สูบบุหรี่ในราชอาณาจักรมีเปอร์เซ็นต์ถึง 13% ในขณะที่เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนหญิงคือ 5%

ผลการวิจัยกล่าวว่าเปอร์เซ็นต์ของนักเรียนที่เริ่มสูบบุหรี่ในช่วงประถมคือ 27% ในขณะที่เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาเพิ่มขึ้นในโรงเรียนมัธยมต้นเป็น 53%

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ "عكاظ" ของซาอุดีอาระเบียผู้ที่รับผิดชอบในการต่อต้านการสูบบุหรี่ในสมาคม "نقاء" เห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิกเฉยโดยระบุว่าการขึ้นราคายาสูบจะช่วยลดเปอร์เซ็นต์ของผู้สูบบุหรี่ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะจำกัดการแพร่กระจายบุหรี่

สมาคม "نقاء" เปิดเผยว่า มีผู้สูบบุหรี่มากกว่า 61,000 คน ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่จากจำนวนจากบัญชีผู้สูบทั้งหมดที่เกิน 87,049 คน คิดเป็น 70% การแสดงความจำนงขอเลิกบุหรี่กับสมาคมโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 18 คน และพวกเขาปฏิบัติกับผู้ที่เข้ามาแสดงความจำนงเลิกสูบบุหรี่ด้วยการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด

องค์การอนามัยโลกยืนยันว่าการสูบบุหรี่คร่าชีวิตผู้คน 5 ล้านคนต่อปี ทั่วโลกโดย 23,000 คน อยู่ในประเทศซาอุดีอารเบีย และเฉลียปีละ 600,000 คน ที่เสียชีวิตเนื่องจากการสูบบุหรี่มือสอง โดยเฉลี่ยแล้ว 40-50% เป็นเด็กนักเรียนอายุระหว่างอายุ 14-18 ปี ที่สูบบุหรี่ และ 30 % เสียชีวิตจากสาเหตุของการสูบบุหรี่ และจากการวิจัยล่าสุดขององค์กร พบว่าประมาณ 20-56% เยาวชนของประเทศซาอุ อาศัยอยู่ในบ้านที่มีผู้สูบบุหรี่และสูบบุหรี่ต่อหน้าเยาวชนเหล่านี้

ที่มา : https://www.dw.com

แปลจาก ต้นฉบับภาษาอาหรับ