"ฮู"ยอมรับฟ้าทะลายโจรรักษาหวัดไซนัสอักเสบ

โรคที่มักเกิดในช่วงหน้าหนาว ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสติดต่อได้ง่าย โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ อ่อนเพลีย น้ำมูกไหล มีเสมหะ ไอ เจ็บคอ แสบคอ ซึ่งสมุนไพรที่นิยมใช้แก้อาการไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ที่ได้ผลดี คือ "ฟ้าทะลายโจร" ช่วยบรรเทาอาการหวัดและเสริมภูมิต้านทานได้รับการรองรับจาก องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรรักษาโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ไซนัสอักเสบที่ได้ผลดี และขายดีที่สุดในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย

ทั้งนี้ ความนิยมในการใช้สมุนไพรนี้เพื่อใช้รักษาโรคหวัดได้แพร่หลายไปยังประเทศซีกโลกตะวันตกอื่นๆ แล้วทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ในคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ได้ผลดีต่อโรคหวัดมาก โดย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส เพิ่มภูมิต้านทาน ลดไข้และลดการอักเสบ ช่วยให้จมูกโล่ง และลดอาการเจ็บคอ ระคายคอ การรับประทานฟ้าทะลายโจร ตามระบุในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2549 กำหนดขนาดใช้ของฟ้าทะลายโจร ดังนี้ถ้ามีอาการหวัดเจ็บคอ รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและ ก่อนนอน

อย่างไรก็ตาม ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำ หรือในรูปแบบของยาต้ม โดยใช้ใบและกิ่งสดล้างให้สะอาด สับเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 10-15 นาที ดื่ม ก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการหวัด เนื่องจาก ฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก จึงแนะนำให้เอาใบฟ้าทะลายโจรสดมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้งในที่ร่ม และบดให้เป็นผงละเอียด บรรจุลงในแคปซูลเบอร์ 0 หรือปั้นกับน้ำผึ้งทำเป็นลูกกลอน เก็บไว้ในขวดแห้งและมิดชิด รับประทานครั้งละ 1.5 กรัม (3-4 แคปซูล)วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร 3 มื้อ และก่อนนอน ปัจจุบันมีจำหน่ายตามร้านยาไทยและร้านสะดวกซื้อทั่วไป

ที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ควรรักษาร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำอุ่นมากๆ และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ การดื่มน้ำเย็น งดรับประทานอาหารที่มีรสหวานมัน เพราะทำให้เสมหะมากและทำให้ไอมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปการดูแลรักษาตนเองตามวิธีดังกล่าวข้างต้น อาการจะดีขึ้นในเวลาเพียง 1-2 วัน หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 2-3 วันแล้วไม่หาย หรืออาการป่วยรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์ทันที

ที่มา สสส
ภาพ แฟ้มภา่พ


แก้ไขล่าสุด : 21 ก.ย. 2561, เวลา 06:53



ข่าวอื่นๆ

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย

ร่วมสร้างสังคมปลอดบุหรี่