เมื่อเร็ว ๆ นี้คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี ร่วมกับหอการค้าจังหวัดจันทบุรี ภายใต้โครงการจันทบุรีมหานครผลไม้ ได้เชิญ ศ.ดร.ชีล่า โครินสไตน์ (Professor Dr.Shela Gorinstein) นักวิทยาศาสตร์สายเภสัชศาสตร์ระดับโลก จากมหาวิทยาลัยฮิบรู ประเทศอิสราเอล (Hebrew University, Jerusalem, Israel) นักวิจัยอาคันตุกะของคณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เจ้าของงานวิจัย “เรื่องสารแอนติออกซิแดนต์ ในผลไม้เมืองร้อน : ประโยชน์และแนวโน้มการวิจัยในอนาคต” โดยงานวิจัยดังกล่าวนี้ได้ใช้เวลาลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนของไทยมาเกือบ 10 ปีแล้ว และผลงานวิจัยได้ถูกนำมาเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก
โดยเนื้อหาของงานวิจัยพอสรุปได้ว่า เริ่มแรกงานวิจัยนี้ทำการเปรียบเทียบทุเรียนจากสวนจังหวัดจันทบุรีจำนวน 3 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์หมอนทอง ก้านยาว และชะนี เพื่อต้องการศึกษาปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์ (antioxidant) หรือสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เมืองร้อน : ซึ่งมีประโยชน์ ลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดชนิด LDL สามารถป้องกันเส้นเลือดอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจได้ ผลการทดลองพบว่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองมีสารแอนติออกซิแดนต์สูงกว่าพันธุ์ก้านยาวและชะนี จึงทำการทดลองต่อไปว่า ระยะความสุกระดับใดจะให้สารแอนติออกซิแดนต์สูงสุด พบว่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่สุกพอดีมีสารแอนติออกซิแดนต์สูงและช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
เมื่อเปรียบเทียบกับยังไม่สุก (ดิบห่าม) และสุกเกินไป (ปลาร้า) จึงนำมาเลี้ยงกับหนูทดลองได้ผลสรุปว่า หมอนทองที่สุกพอดีลดค่าคอเลสเตอรอล LDL ได้สูงสุด และตรงกับผลการทดลองในห้องแล็บ นอกจากนี้ ทุเรียนพันธุ์หมอนทองยังมีโปรตีนไฟบริโนเจน (fibrinogen) ช่วยทำให้เลือดแข็งตัว (ช่วยให้เลือดหยุดไหล) และมีสารเควอร์ซิติน (quercetin) ในปริมาณสูง สามารถป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดตีบ และมะเร็งได้”
สรุปได้ว่าลักษณะสำคัญ คุณลักษณะพิเศษของทุเรียนพันธุ์หมอนทอง คือ มีสารแอนติออกซิแดนต์สูงที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและมีสารโปรตีนพิเศษเควอร์ซิตินที่ยังไม่มีการวิจัยมาก่อน
รศ.ดร.รติพรกล่าวว่า หากมีการนำงานวิจัยนี้ไปต่อยอดเพิ่มเติมว่า คนที่เป็นเบาหวานสามารถรับประทานทุเรียนได้หรือไม่ เพราะในงานวิจัยพบว่า หนูทดลองที่ได้รับทุเรียนหมอนทองไม่ได้มีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หนูที่ใช้ทดลองไม่ได้เป็นเบาหวาน ซึ่งเป็นโอกาสดีหากมีการต่อยอดทดลองกับผู้บริโภคเป็นเรื่องสำคัญ และต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก หากได้การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐจะเกิดประโยชน์กับประเทศไทยอย่างยิ่ง
นายปราโมช ร่วมสุข ประธานสถาบันทุเรียนไทย อดีตประธานกรรมการหอการค้าภาคตะวันออกและจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า กระแสทุเรียนฟีเวอร์ทำให้เกษตรกรหลงทางเสาะหาทุเรียนพันธุ์โบราณ หรือพันธุ์แปลก ๆ มาปลูก ซึ่งเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ไม่ใช่เชิงเศรษฐกิจการค้า ไม่ใช่การสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่งานวิจัยทุเรียนพันธุ์หมอนทองของไทยว่ามีลักษณะพิเศษทั้งสารแอนติออกซิแดนต์ ต้านอนุมูลอิสระและสารพิเศษที่มีโปรตีน ภาครัฐควรให้ความสำคัญสนับสนุนงบประมาณไปต่อยอดให้งานวิจัยมีผลกับผู้บริโภค นั่นคือการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเป็นแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้อย่างยั่งยืน เพราะสามารถตอบคำถามให้ผู้บริโภคทุเรียนในตลาดโลกได้ว่า ทำไมต้องรับประทานทุเรียนหมอนทองไทย นั่นคือจุดขายที่สุดยอด ซึ่งจะทำให้การปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองของไทยยั่งยืน โดยเฉพาะกับจังหวัดจันทบุรีที่ยุทธศาสตร์ของประเทศปั้นให้เป็นเมืองมหานครผลไม้
ที่มา เว็บไซต์ประชาชาติดอทเน็ต
ภาพ แฟ้มภาพ
แก้ไขล่าสุด : 30 ก.ค. 2561, เวลา 18:24